1.บลูเบอร์รี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ดีที่สุดในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxidants ให้กับผิว บลูเบอร์รี่ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่มีสามารต้านอนุมูลอิสระที่มากเป็นอันดับต้นๆ และด้วยรสชาติของบลูเบอร์รี่ คุณสามารถรับประทานสดๆ หรือนำไปประกอบอาหาร ทำขนม หรือทำเครื่องดื่มอร่อยๆ ได้
บลูเบอร์รี่ไม่เพียงมีแคลอรี่ต่ำ ยังช่วยสร้างเกาะป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ หรือ Free Radicals ที่ทำให้ผิวแก่กว่าวัย แถมช่วยป้องกันโรคร้าย เช่น โรคมะเร็งได้ สารต้านอนุมูลอิสระหลักที่อยู่ในบลูเบอร์รี่คือ สารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอล หรือ Polyphenol Antioxidant ที่รู้จักกันในนาม ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งให้ประโยชน์สูงสุดในหมู่ผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยต่างๆ เหล่านี้
2.ส้ม เป็นผลไม้อีกชนิดที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระให้กับผิวพรรณ เพราะส้มมีวิตามินซีสูง เป็นผลไม้ที่มีน้ำมากซึ่งมีความสำคัญในการช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม และชุ่มชื้น อีกทั้งร่างกายของคนเราต้องการวิตามินซีเพื่อช่วยผลิตคอลลาเจนในการต่อสู้กับริ้วรอยแห่งวัย และช่วยให้ผิวพรรณสวยและแข็งแรง
3.ทับทิม นอกจากรสชาติที่แสนอร่อยของทับทิมแล้ว ทับทิมยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดี อีกทั้งยังป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทับทิมสามารถเก็บเม็ดมารับประทานได้สดๆ นำมาสกัด ปั่น หรือทำเป็นสมูทตี้น้ำทับทิม นำมาโรยหน้าสลัดก็กรุบกรับ เพิ่มรสชาติให้อร่อยค่ะ
4.มะเขือเทศ หลายคนคิดว่ามะเขือเทศเป็นผัก แต่อันที่จริงแล้ว มะเขือเทศเป็นผลไม่ที่ให้วิตามินซีสูง เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง มะเขือเทศนั้นประกอบไปด้วยไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้พืชหรือผลไม้มีสีแดง เหลือง หรือส้ม ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากที่สุด มากกว่าเบต้าแคโรทีนด้วยซ้ำ ไลโคปีนจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีในอากาศ ป้องกันผิวจากการทำลายของแสงแดด อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งอีกด้วย หากเลือกรับประทานมะเขือเทศ แนะนำให้เลือกมะเขือเทศที่ปลูกแบบปลอดสาร หรือมะเขือเทศออร์แกนิค เพราะการปลูกมะเขือเทศส่วนใหญ่มักใช้การใส่ปุ๋ย ซึ่งอาจส่งผลทำให้ต่อระบบการย่อยอาหาร เกิดอาการแน่นเฟ้อ หรือมีปัญหาด้านกระเพาะอาหารอีกด้วย
5.อะโวคาโด้ เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ มีความมัน มีความครีมมี่ และเป็นผลไม้ที่สามารถนำมาประกอบอาหาร ทำขนม ทำเครื่องดื่ม และทำของว่างได้หลากหลายอย่าง เป็นที่ทราบกันดีว่าอะโวคาโด้เป็นผลไม้สุขภาพ มีไขมันดี ให้ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือ Monounsaturated Fat ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
อะโวคาโด้ยังให้สารต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งดีต่อผิว นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว อะโวคาโค้ยังมีวิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น และป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต อะโวคาโด้ยังมี NMN (Nicotinamide Mono Nucleotide) อันเป็นเป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 ที่ช่วยในการป้องกันผิวแก่ก่อนวัย และสารกลูตาไธโอน (Glutathione) ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรออีกด้วย
6.แตงโม ผลไม้โปรดของคนไทยที่นิยมรับประทานในช่วงหน้าร้อน แตงโมเป็นผลไม้อีกชนิดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และมีน้ำอยู่ถึง 92% ซึ่งช่วยทำให้ผิวพรรณฉ่ำน้ำ เนียนนุ่ม และชุ่มชื้น เหมือนกับมะเขือเทศ แตงโมมีไลโคปีนสูง การรับประทานแตงโมจึงช่วยปกป้องผิวจากอาการผิวแก่ก่อนวัย โรคมะเร็งผิวหนัง และริ้วรอยแห่งวัย
7.ชาเขียว หากคุณอยากมีผิวสวย สุขภาพผิวดี แนะนำให้ดื่มชาเขียว เพราะชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะชาเขียวมัทฉะ ที่อัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างเป็นเวลานาน นอกจากสารต้อนอนุมูลอิสระแล้ว ชาเขียวยังประกอบด้วยวิตามินบี 3 และ EGCG หรือ Epigallocatechin Gallate ซึ่งสารพฤกษเคมีในกลุ่ม Catechin ที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดระดับไขมันในเลือด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
8.มันหวาน เป็นพืชที่มีรสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพมากกว่ามันฝรั่งธรรมดา ในมันหวาน 1 ผล มีส่วนประกอบของสิตามินซีและเบต้าแคโรตีนสูง ซึ่งร่างกายจะแปลงให้กลายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินเอ ที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณและร่างกายของเราค่ะ
9.ผักเคล เป็นผักในตระกูลกะหล่ำ เช่นเดียวกับบรอกโคลีและกะหล่ำดอก ผักเคลถือเป็นซูเปอร์ฟู้ด (Superfoods) หรืออาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร มีคุณค่าทางโภชนาการ และเต็มไปด้วยส่วนประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เฟิร์ม และชุ่มชื้น ผักใบเขียวเหล่านี้มัวิตามินเคสูง เต็มเปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดการอุดตันของเลือด วิตามินเคในผักเคลช่วยรักษาให้รอยแผลเป็นจางลง ลดอาการถุงใต้ตา รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอดที่ขา จากการศึกษาของ Turfs University สหรัฐอเมริกาพบว่า ผักเคลยังสามารถป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วย
10.พริกหยวก ด้วยคุณประโยชน์ที่เหมือนกับมันหวาน พริกหวานนั้นเปี่ยมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายจะแปลงให้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินเอ พริกหวานยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง การรับประทานพริกหวานเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผิวแห้งและรอยตีนกาซึ่งเป็นริ้วรอยแห่งวัย
Comments